Home / บทความทั้งหมด / 9 สัญญาณของ ปัญหาการเงิน ที่จะบั่นทอนชีวิตคู่

9 สัญญาณของ ปัญหาการเงิน ที่จะบั่นทอนชีวิตคู่

ปัญหาการเงินของชีวิตคู่ที่ไม่วางแผนการเงิน

ชีวิตคู่ไม่ได้ประกอบด้วยแค่ความรักหรือความเข้าใจเท่านั้น “เรื่องเงิน” ก็เป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่กำหนดความมั่นคงของความสัมพันธ์ หลายคู่ต้องเผชิญความเครียดจาก ปัญหาการเงิน เพราะมองข้ามสัญญาณเล็กๆ ที่สะสมจนกลายเป็นรอยร้าวใหญ่ บทความนี้จะพาสำรวจ 9 Red Flag การเงินในชีวิตคู่ เพื่อให้คุณและคนรักรักษาสมดุลทั้งหัวใจและกระเป๋าสตางค์

9 สัญญาณที่ต้องแก้ไขปัญหาการเงินของชีวิตคู่

 9 Red Flag ปัญหาการเงิน ในชีวิตคู่ ที่ทำให้ความรักสั่นคลอน

ลองเช็กกันว่ามีสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่ซ่อนอยู่ในความสัมพันธ์ การรู้ทันและแก้ไขได้เร็ว ช่วยให้ทั้งคู่ วางแผนการเงิน ร่วมกันอย่างมั่นคง ลดความเสี่ยงเรื่องหนี้ และสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับความรัก

Red Flag ที่ 1 : ไม่เคยเปิดเผยรายได้ที่แท้จริง

ใน ชีวิตคู่ ความโปร่งใสทางการเงินถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก หากคู่รักไม่เคยบอกความจริงเกี่ยวกับรายได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนหรือรายได้เสริม ก็เหมือนกับว่ากำลังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่ก็ยังมี “กำแพงบางๆ” คั่นกลาง คุณอาจรู้สึกไม่สบายใจเมื่อต้อง วางแผนการเงิน หรือแม้แต่จะเปิดบัญชีคู่รักเพื่อเก็บเงินสร้างครอบครัว เพราะไม่มั่นใจว่าข้อมูลที่ได้รับมานั้นถูกต้องหรือไม่

  • ผลกระทบ : การปกปิดรายได้ทำลายความเชื่อใจ ซึ่งเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ และทำให้การตัดสินใจสำคัญร่วมกัน เช่น การซื้อบ้าน หรือการวางแผนอนาคต ต้องสะดุดลง นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด ความเครียดเรื่องเงิน ได้โดยไม่รู้ตัว
  • แนวทางแก้ไข : สิ่งสำคัญที่สุดคือการเปิดใจพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับรายได้และค่าใช้จ่ายทั้งหมด จากนั้นจึงร่วมกันจัดทำบันทึกการเงิน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมีข้อมูลที่ตรงกัน หากการพูดคุยเป็นเรื่องยาก ลองพิจารณาหาคนช่วยเหลือเรื่องเงิน เช่น นักวางแผนการเงิน เพื่อให้คำแนะนำที่เป็นกลางและเป็นมืออาชีพ

ปัญหาหนี้ชีวิตคู่

Red Flag ที่ 2 : ใช้จ่ายเกินตัวจนอีกฝ่ายต้องแบกรับภาระ

การรูดบัตรเครดิตหรือสั่งของออนไลน์โดยไม่วางแผน อาจดูเล็กน้อยในช่วงแรก แต่เมื่อสะสมไปก็กลายเป็นภาระให้อีกฝ่ายต้องรับผิดชอบ ความรู้สึก “เหนื่อยแทน” หรือ “ถูกเอาเปรียบ” ค่อย ๆ กัดกร่อนความสัมพันธ์

  • ผลกระทบ : ค่าใช้จ่ายที่บานปลายทำให้เงินออมลดลง และสร้างความตึงเครียดในบ้าน
  • แนวทางแก้ไข : วางกฎการใช้เงินร่วมกัน เช่น แบ่งเงินเดือนเข้าบัญชีส่วนตัว และอีกส่วนเข้ากองกลางสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น หรือเลือกเปิดบัญชีคู่รัก เพื่อบริหารเงินก้อนเดียวกันอย่างเป็นระบบ พร้อมตรวจสอบการใช้จ่ายบัตรเครดิตทุกเดือน

Red Flag ที่ 3 : ไม่มีวินัยในการออมเงินและขาดเป้าหมายทางการเงิน

คู่รักที่หาเงินเก่งแต่ใช้หมดโดยไม่เหลือออม ขาดความมั่นคงระยะยาว การไม่มีบัญชีออมหรือเป้าหมายที่ชัดเจนใน ชีวิตคู่ ทำให้แผนใหญ่ เช่น บ้าน รถ หรือการเกษียณ กลายเป็นเรื่องเลื่อนลอย

  • ผลกระทบ : การละเลยการออมทำให้พลาดโอกาส เช่น ซื้อบ้านหลังแรก หรือสร้างกองทุนเกษียณ และอาจนำไปสู่การเครียดเรื่องเงินเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ
  • แนวทางแก้ไข : ตั้งเป้าหมายทางการเงินร่วมกัน และหักเงินเข้าบัญชีออมทุกเดือน อาจ เปิดบัญชีคู่รัก สำหรับเงินดาวน์บ้านหรือกองทุนเกษียณ และหาผู้เชี่ยวชาญช่วยวางแผนให้เหมาะสม

Red Flag ที่ 4 : ขอยืมเงินบ่อยจนอีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ

ในชีวิตคู่ การช่วยกันเรื่องเงินเป็นเรื่องปกติเมื่อมีเหตุจำเป็น แต่ถ้าอีกฝ่ายเริ่มขอยืมเงินบ่อย ๆ โดยไม่มีเหตุผลหรือแผนคืนที่ชัดเจน ความสัมพันธ์อาจเสียสมดุล คุณอาจรู้สึกกดดันหรือสับสนว่าจะปฏิเสธหรือช่วยดี หากขาดวางแผนการเงินที่รัดกุม ปัญหาเล็กๆ อาจลุกลามเป็นแรงกดดันในความสัมพันธ์

  • ผลกระทบ : ความรู้สึกเหมือนถูกใช้เป็นที่พึ่งทางการเงินสร้างความอึดอัดและลดความไว้วางใจ
  • แนวทางแก้ไข : ตั้งขอบเขตเรื่องการยืมให้ชัดเจน และสร้างกองทุนฉุกเฉินหรือ ปิดบัญชีคู่รัก ไว้ใช้ในสถานการณ์จำเป็น ลดการยืมที่ไม่จำเป็นและเพิ่มความโปร่งใส

คู่รัก LGBTQ เครียด เรื่อง เงิน

Red Flag ที่ 5 : หลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องเงิน หรือแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว

หลายคู่เมื่อพูดถึงเรื่องเงินก็มักเงียบหรือรีบเปลี่ยนเรื่อง บางครั้งถึงขั้นแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวจนบรรยากาศเสีย ปัญหานี้มักเกิดจากการไม่มีพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุย การปล่อยให้เรื่องเงินกลายเป็น “หัวข้อห้ามแตะ” ทำให้ชีวิตคู่ขาดความเข้าใจในสิ่งสำคัญอย่างการวางแผนการเงิน

  • ผลกระทบ : การสื่อสารที่ปิดกั้นทำให้แก้ปัญหาการเงินหรือเตรียมเป้าหมายใหญ่ เช่น ซื้อบ้าน
  • แนวทางแก้ไข : เลือกเวลาที่ผ่อนคลายในการพูดคุย เช่น ระหว่างดื่มกาแฟ หรือ หาคนช่วยเหลือเรื่องเงิน เพื่อเป็นตัวกลางทำให้บทสนทนาเป็นไปในทางสร้างสรรค์

Red Flag ที่ 6 : ไม่เคยพูดคุยหรือวางแผนการเงินเพื่ออนาคตร่วมกัน

คู่รักที่ไม่เคยคุยเรื่องอนาคตทางการเงิน เช่น เก็บเงินเพื่อมีลูก ซื้อบ้าน หรือเตรียมกองทุนเกษียณ มักใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไร้เป้าหมายร่วมกัน การพูดคุยเรื่องการออมและลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ชีวิตคู่ มีทิศทางและลดความเสี่ยงต่อความเครียดเรื่องเงินในอนาคต

  • ผลกระทบ : การขาดแผนร่วมทำให้พลาดโอกาส เช่น ลงทุนซื้อบ้านในช่วงราคาดี หรือจัดกองทุนเกษียณได้ทันเวลา ความสัมพันธ์อาจดูไร้เสถียรภาพ
  • แนวทางแก้ไข : ควรกำหนดเวลาเพื่อพูดคุยและตั้งเป้าหมายการเงินร่วมกัน เช่น วางแผนซื้อบ้านหรือเก็บเงินเพื่อเกษียณ เพื่อให้ทั้งคู่เห็นทิศทางเดียวกัน

ชีวิตคู่ เครียดเรื่องเงิน

Red Flag ที่ 7 : ปกปิดเรื่องหนี้สินจนอีกฝ่ายมารู้ทีหลัง

บางคนเลือกซ่อนหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนตัว เพราะกลัวทำให้คู่รักผิดหวัง แต่การปกปิดอาจสร้างรอยร้าวในความไว้วางใจ อีกฝ่ายอาจรู้สึกเหมือนถูกหลอกหรือถูกดึงให้รับผิดชอบหนี้โดยไม่เต็มใจ ปัญหานี้ไม่เพียงเพิ่มภาระการเงิน แต่ยังบั่นทอนความสัมพันธ์

  • ผลกระทบ : ความเชื่อใจสั่นคลอน เพราะการเงินในบ้านขาดความโปร่งใส
  • แนวทางแก้ไข : ควรเปิดเผยข้อมูลหนี้ทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา เช่น ไปเช็ก เครดิตบูโร เพื่อให้เห็นให้ชัดว่ามีกี่หนี้ หนี้อะไรบ้าง พร้อมคิดแผนการชำระหนี้ หากจัดการเองไม่ได้ ควรหาคนช่วยเหลือเรื่องเงิน เช่น ติดต่อเข้าไปที่สถาบันการเงิน เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น

Red Flag ที่ 8 : ใช้เงินกองกลางโดยไม่ปรึกษา

เงินกองกลางคือสิ่งที่ทั้งคู่ร่วมสร้าง แต่หากฝ่ายหนึ่งถอนหรือใช้เงินก้อนใหญ่โดยไม่แจ้ง อาจทำให้ความเชื่อใจสั่นคลอน การใช้เงินร่วมต้องอาศัยความโปร่งใสและการสื่อสาร เพื่อป้องกันความไม่เข้าใจและลดเรื่องเครียดเรื่องเงิน

  • ผลกระทบ : ความไม่มั่นใจเรื่องการใช้กองกลางทำให้บรรยากาศ “ทีมเดียวกัน” ลดลง และอาจนำไปสู่การโต้เถียงบ่อยครั้ง
  • แนวทางแก้ไข : วางกติกา เช่น หากใช้เกินวงเงินที่กำหนดต้องแจ้งล่วงหน้า หรือใช้บัญชีร่วมที่ดูความเคลื่อนไหวได้ง่าย

Red Flag ที่ 9 : แบกรับค่าใช้จ่ายอยู่เพียงคนเดียว

ในความสัมพันธ์ที่ดี การแบ่งปันภาระทางการเงินควรเป็นเรื่องที่ตกลงกัน แต่หากอีกฝ่ายต้องจ่ายทุกอย่างเพียงลำพัง ไม่ว่าจะค่าเช่าบ้าน ค่ารถ หรือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ความเหนื่อยล้าทั้งทางอารมณ์และการเงินจะค่อยๆ สะสม จนกระทบความรู้สึกผูกพัน การแบ่งหน้าที่ทางการเงินที่ชัดเจนจึงเป็นหัวใจสำคัญในการทำให้ชีวิตคู่เดินหน้าได้อย่างมั่นคง

  • ผลกระทบ : ความสัมพันธ์เสียสมดุล ผู้แบกรับค่าใช้จ่ายอาจรู้สึกโดดเดี่ยวและเกิด ความเครียดเรื่องเงิน
  • แนวทางแก้ไข : ควรตกลงสัดส่วนการรับผิดชอบที่ยุติธรรม เช่น แบ่งจ่ายตามสัดส่วนรายได้ หรือสร้างกองกลางรายเดือนเพื่อใช้จ่ายร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้ทั้งคู่รู้สึกสบายใจและมั่นคงมากขึ้น

สินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อชีวิตคู่

อยากจัดการปัญหาการเงินชีวิตคู่ ใช้สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไหนดี?

ถ้าคุณและคู่รักปรับพฤติกรรมการเงินแล้ว แต่ยังต้องใช้เงินก้อนเพื่อจัดการหนี้ ซ่อมบ้าน หรือเตรียมค่าใช้จ่ายสำคัญอื่นๆ การใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลอาจช่วยคลายแรงกดดันได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เงื่อนไขเหมาะกับกำลังผ่อนของคุณ โดยสินเชื่อส่วนบุคคลที่น่าสนใจ เช่น

  • Krungsri iFIN Personal Loan*  : สมัครออนไลน์ผ่าน Krungsri Mobile App รู้ผลไวใน 1 วัน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำ วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท  ดอกเบี้ย 21-25% ต่อปี ผ่อนได้นานสูงสุด 60 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนอย่างรวดเร็ว
  • KBank Xpress Loan* : สินเชื่อเงินก้อนที่ให้วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 17-25% ต่อปี ผ่อนสบายสูงสุด 60 เดือน เหมาะกับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ เช่น แต่งงานหรือรีโนเวทบ้าน
  • TTB Cash2Go* : เงินก้อนอนุมัติไว เหมาะสำหรับปรับโครงสร้างหนี้หรือใช้จ่ายจำเป็น วงเงิน สูงสุด 2,000,000 บาท ดอกเบี้ย 18% – 25% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน 
  • สินเชื่อรายได้ประจำสุขใจ* : สินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคารออมสิน ออกแบบมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ หรือชำระหนี้สินอื่นๆ วงเงินอนุมัติสูงสุด 200,000 บาท ผ่อนยาว 8  ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อเดือน
  • Krungthai ใจป้ำ* : เงินกู้เพื่อหมุนธุรกิจหรือใช้จ่ายจำเป็น ไม่ต้องมีคนค้ำ วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท ดอกเบี้ยประมาณ 20%-22% ต่อปี ต่อปี ผ่อนได้นานสูงสุด 60 เดือน
  • UOB Xpress* : เงินก้อนที่ให้คุณมีเงินใช้สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ในทุกช่วงเวลาของชีวิต วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาท ดอกเบี้ย 9.99%-25%  ต่อปี ผ่อนได้นานสูงสุด 60 เดือน

เคล็ดลับ : ก่อนตัดสินใจ ควรตรวจสอบอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน และความสามารถในการชำระให้รอบคอบ เพื่อให้สินเชื่อเป็น “ตัวช่วย” ลด เครียดเรื่องเงิน ไม่ใช่ภาระใหม่ในชีวิตคู่

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ 25% ต่อปี

Droplead New

Let us know who you are