รวมหนี้เป็นก้อนเดียว ผ่อนเบาลง ดอกเบี้ยต่ำ เลือก สินเชื่อรวมหนี้ ธนาคารไหนดี?

การเป็นหนี้หลายก้อนไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ควรรู้สึกอาย เพราะคนจำนวนมากเป็นหนี้เพราะเหตุผลจำเป็นในชีวิต ไม่ได้เพราะใช้เงินเกินตัวเสมอไป แต่ปัญหาคือเมื่อมีหลายบิล หลายดอกเบี้ย จ่ายเท่าไหร่ก็เหมือนไม่ลดลงสักที ซึ่งข่าวดีคือ ปัญหานี้จัดการได้ด้วยวิธีที่ถูกต้องตามระบบการเงิน ด้วยการใช้สินเชื่อรวมหนี้เพื่อ “รวมหนี้เป็นก้อนเดียว” ผ่อนจ่ายแบบมีแผน ลดดอกเบี้ย และกลับมาควบคุมการเงินของตัวเองได้อีกครั้ง เพื่อให้คุณเบาใจทางการเงินมากขึ้น มาดูกันข้อมูลของสินเชื่อรวมหนี้ในบทความนี้กันเลย

สินเชื่อรวมหนี้ คืออะไร? ช่วยแก้ปัญหาหนี้หลายก้อนยังไง

สินเชื่อรวมหนี้ (Debt Consolidation Loan) คือเครื่องมือทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อนำหนี้หลายๆ ก้อนที่กระจัดกระจาย เช่น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อผ่อนสินค้า หรือแม้แต่หนี้ส่วนบุคคล มารวมไว้เป็นยอดเดียว แล้วทำการผ่อนชำระกับสถาบันการเงินเพียงแห่งเดียวแทนการจ่ายหลายๆ เจ้า 

โดยเป้าหมายหลักคือ เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลง จ่ายหนี้ได้เป็นระบบขึ้นเพราะมีแค่บิลเดียว และมีโอกาสปิดหนี้ได้เร็วกว่าเดิม อย่างมาก เพราะเงินที่เคยจ่ายไปเป็นดอกเบี้ยสูงๆ จะถูกนำไปตัดเงินต้นได้มากขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือ จากหนี้หลายเจ้า หลายรอบบิล หลายดอกเบี้ยที่สูงลิ่ว กลายเป็นเป็นผ่อนก้อนเดียว ดอกเบี้ยต่ำกว่า และวางแผนการเงินได้ง่ายกว่าเดิม

คุ้มไหมถ้าจะ ‘อยากรวมหนี้เป็นก้อนเดียว’ ด้วย สินเชื่อรวมหนี้

สำหรับคำถามที่ว่า “รวมหนี้คุ้มจริงไหม?” หรือ “รวมหนี้เป็นก้อนเดียว ดีไหม?” คำตอบคือคุ้มค่ามากๆ หากเข้าใจว่าเป้าหมายการเงินครั้งนี้คือการจัดการภาระหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเลือก สินเชื่อรวมหนี้ธนาคารไหนดี มาดูข้อดีแบบชัดๆ ที่คุณจะได้รับเมื่อคิดจะรวมหนี้เป็นก้อนเดียวกันเลย 

• ประหยัดดอกเบี้ยมหาศาล : ดอกเบี้ยบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลมักจะถูกคิดอัตราสูงสุดที่ 16 และ 25% ต่อปีตามลำดับ แต่สินเชื่อรวมหนี้จะช่วยลดดอกเบี้ยลงทำให้เงินที่คุณเคยจ่ายไปเป็นดอกเบี้ยจำนวนมาก กลายเป็นเงินที่ไปปิด “เงินต้น” ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
• ผ่อนชำระง่ายขึ้นและมีวินัย : จากเดิมที่ต้องจำวันครบกำหนดชำระหลายบิล และกังวลเรื่องการจ่ายขั้นต่ำ จะทำให้คุณเหลือเพียงบิลเดียวและยอดผ่อนเท่ากันทุกเดือน คุณเลยสามารถวางแผนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ง่ายและเป็นระบบกว่าเดิม
• ไม่เสียประวัติเครดิต (เครดิตบูโร) : หากเริ่มจ่ายหนี้บัตรเครดิตไม่ไหว จ่ายหนี้สินเชื่อไม่ทัน และปล่อยให้มีการค้างชำระยาวๆ ก็เสี่ยงต่อการติดเครดิตบูโร ดังนั้น การกู้เงินปิดหนี้ก่อนที่จะสายเกินไป จะช่วยให้สภาพการเงินกลับมาปกติ และประวัติสินเชื่อของคุณจะดีขึ้นในระยะยาว ซึ่งเป็นผลดีต่อการขอสินเชื่ออื่นๆ ในอนาคต
• ขยายระยะเวลาผ่อนได้ : สถาบันการเงินส่วนใหญ่จะเสนอระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้น (โดยส่วนมากจะอยู่ที่ 48-72 เดือน) ทำให้ค่างวดต่อเดือนลดลงมาอยู่ในระดับที่คุณ “หายใจได้” และไม่สร้างความตึงเครียดทางการเงิน

อยากรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ก่อนสมัคร สินเชื่อรวมหนี้ เตรียมตัวยังไง

การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวจะได้ผลดีที่สุด เมื่อมีการเตรียมตัวก่อนยื่นกู้ เพราะช่วยให้มีโอกาสอนุมัติสูงขึ้น ได้วงเงินตรงตามต้องการ และผ่อนจ่ายแบบไม่เป็นภาระเกินไป ขั้นตอนที่ควรทำมีดังนี้

 รวบรวมข้อมูลหนี้ทุกก้อนให้ละเอียด

ก่อนจะ “รวมหนี้เป็นก้อนเดียว” ต้องรู้ก่อนว่าเรามีหนี้ทั้งหมดกี่บาทและมาจากที่ไหนบ้าง แนะนำให้จดรายการแยกเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อต่างๆ โดยข้อมูลที่ต้องลิสต์ เช่น

• หนี้คงเหลือแต่ละก้อน
• อัตราดอกเบี้ยต่อปี
• วันตัดรอบ หรือกำหนดชำระ

คำนวณ “ค่างวดที่จ่ายไหวแบบไม่กดดันตัวเอง”

คำนวณรายรับและรายจ่ายประจำเดือนอย่างละเอียด ไม่ต้องเลือกยอดผ่อนที่ถูกที่สุด แต่ให้เลือก “ยอดที่ผ่อนไหวแบบไม่เครียด + ยังมีเงินสำรองฉุกเฉินเหลือเก็บได้” เพื่อให้การผ่อนชำระเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

เปรียบเทียบสินเชื่อรวมหนี้แต่ละสถาบันการเงิน

เมื่อรู้ยอดหนี้ที่ต้องรวมแล้ว ค่อยตัดสินใจว่า “สินเชื่อรวมหนี้ธนาคารไหนดี” โดยดู 4 ตัวนี้เป็นหลัก 

• ดอกเบี้ย : เพื่อประหยัดค่าส่วนต่างดอกเบี้ยระยะยาว
• วงเงินอนุมัติ : ต้องครอบคลุมยอดหนี้ที่คุณต้องการ กู้เงินปิดหนี้
• ระยะเวลาผ่อน : เลือกให้เหมาะกับกำลังจ่ายของตัวเอง
• เงื่อนไขรายได้ขั้นต่ำ : ยิ่งตรงคุณสมบัติ ยิ่งอนุมัติง่ายขึ้น

 รวมทุกหนี้ให้เป็นก้อนเดียว ควรเลือก สินเชื่อรวมหนี้ ธนาคารไหนดี

ในประเทศไทยมีสินเชื่อรวมหนี้ให้เลือกใช้หลายสถาบันการเงิน จึงไม่แปลกใจที่คนอยากรวมหนี้เป็นก้อนเดียว มักจะตั้งคำถามกันบ่อยๆ ว่า ควรเลือกสินเชื่อรวมหนี้ธนาคารไหนดี ซึ่งคำตอบก็ไม่ได้ตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ เช่น รายได้ วงเงินที่ต้องการ และค่างวดที่ผ่อนไหวจริงในชีวิตประจำวัน ดังนั้น เพื่อให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้น จึงได้รวบรวมข้อมูลสินเชื่อปิดหนี้จากหลายสถาบันการเงิน ให้กับคนที่อยากรวมหนี้เป็นก้อนเดียว และกำลังค้นหาว่าที่ไหนรับปิดหนี้บ้าง

ไทยเครดิต :  สินเชื่อบุคคลไทยเครดิต

• รายได้สมัครเริ่มต้น/เดือน : 30,000 บาทขึ้นไป
• วงเงินกู้สูงสุด : 2,000,000 บาท *
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 60 เดือน
• อัตราดอกเบี้ย : 9.99% – 25%*

 AEON : สินเชื่อ One Loan 

• รายได้สมัครเริ่มต้น/เดือน : 30,000 บาทขึ้นไป
• วงเงินกู้สูงสุด : 500,000 บาท
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 60 เดือน
• อัตราดอกเบี้ย : 15.99% – 22.00%*

 LH Bank  : สินเชื่อ Happy Cash Balance Transfer

• รายได้สมัครเริ่มต้น/เดือน : 30,000 บาทขึ้นไป
• วงเงินกู้สูงสุด : 1,500,000 บาท
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 60 เดือน
• อัตราดอกเบี้ย : 8.88% – 25%*

Krungsri : สินเชื่อ Krungsri iFIN

• รายได้สมัครเริ่มต้น/เดือน : 20,000 บาทขึ้นไป
• วงเงินกู้สูงสุด : 2,000,000 บาท
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 60 เดือน
• อัตราดอกเบี้ย : 21% – 25%*

CIMB  : สินเชื่อบุคคล Personal Cash 

• รายได้สมัครเริ่มต้น/เดือน : 20,000 บาทขึ้นไป
• วงเงินกู้สูงสุด : 2,000,000 บาท
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 60 เดือน
• อัตราดอกเบี้ย : 9.99% – 25%*

BBL  : สินเชื่อบัวหลวงสุขใจ

• รายได้สมัครเริ่มต้น/เดือน : 15,000 บาทขึ้นไป
• วงเงินกู้สูงสุด : 1,000,000 บาท
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 60 เดือน 
• อัตราดอกเบี้ย : 14% – 23%*

 UOB  : สินเชื่อส่วนบุคคล UOB Express

• รายได้สมัครเริ่มต้น/เดือน : 15,000 บาทขึ้นไป
• วงเงินกู้สูงสุด : 2,000,000 บาท
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 60 เดือน 
• อัตราดอกเบี้ย : 9.99% – 25%*

 KBANK  : สินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan

• รายได้สมัครเริ่มต้น/เดือน : 10,000 บาทขึ้นไป 
• วงเงินกู้สูงสุด : 1,500,000 บาท
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด​ : 60  เดือน
• อัตราดอกเบี้ย : 17% – 25%*

 KKP : สินเชื่อ KKP Better Loan

• รายได้สมัครเริ่มต้น/เดือน : 10,000 บาทขึ้นไป 
• วงเงินกู้สูงสุด : 2,000,000 บาท
• ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 72 เดือน
• อัตราดอกเบี้ย : 9.99% – 25%*

*ข้อมูลจากเว็บไซต์ของแต่ละธนาคาร ณ 12/11/68

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่แต่ละสถาบันการเงินกำหนด 

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหวจะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุดที่ 25% ต่อปี 

*วงเงินอนุมัติสินเชื่อขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถาบันการเงิน

*คอนเทนต์นี้จัดทำเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น

สินเชื่อรวมหนี้ ไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่คือทางออกสู่ชีวิตที่เบาขึ้น

เมื่อ รวมหนี้เป็นก้อนเดียว สำเร็จแล้ว ดอกเบี้ยที่ลดลงจะทำให้ค่างวดจัดการได้ง่ายขึ้นทันที สภาพคล่องทางการเงินของคุณจะดีขึ้นอย่างมาก จนคุณรู้สึกว่าความกดดันในการใช้ชีวิตประจำวันได้หายไป สิ่งที่ต้องทำต่อคือการโฟกัสไปที่การไม่สร้างหนี้เพิ่ม และทยอย โปะเงินต้น เพื่อเร่งการปลดหนี้ให้เร็วขึ้น ท้ายที่สุด สินเชื่อรวมหนี้ คือ “โอกาสตั้งหลัก” ที่ช่วยให้คุณเปลี่ยนเกมการเงินได้ ไม่ใช่ภาระผูกพันใหม่ หากใช้ด้วยแผนและวินัย ผลลัพธ์คือความมั่นคงและความสบายใจที่กลับมาหาคุณอย่างถาวร