ทุกวันนี้ชื่อของ “S&P 500” ได้กลายเป็นคำศัพท์พื้นฐานในการลงทุนระดับโลกอย่างแท้จริง ดัชนีนี้ไม่ได้เป็นแค่ตัวเลขที่สะท้อนทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เท่านั้น แต่คือ “หัวใจ” สำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกใช้เป็นแกนหลักในการสร้างความมั่งคั่ง หากอยากรู้ว่า S&P 500 คืออะไร ทำไมถึงได้รับความนิยม และจะลงทุนได้ที่ไหน บทความนี้ได้รวบรวมคำตอบมาให้คุณแล้ว

S&P 500 คืออะไร
ดัชนี S&P 500 (Standard & Poor’s 500 Index) คือการรวมรายชื่อบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกาจำนวน 500 บริษัท เพื่อใช้เป็นตัวแทนที่แม่นยำของ “เศรษฐกิจสหรัฐฯ” โดยตรง ซึ่งบริษัทที่ถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนีนี้ล้วนเป็นองค์กรที่มีมูลค่าตลาดสูง มีสภาพคล่อง และมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง ซึ่งชื่อบริษัทที่หลายๆ คนคุ้นเคย เช่น Apple, Microsoft, Amazon, Google (Alphabet), Tesla, และ Meta Platforms เป็นต้น เบื้องหลังการจัดทำดัชนีนี้ดำเนินการโดยบริษัท Standard & Poor’s และมีหลักการสำคัญคือ
- การถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด (Market Capitalization Weighted) : กลไกนี้หมายความว่า บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงกว่า เช่น Apple หรือ Microsoft จะมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีโดยรวมมากกว่าบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งทำให้ S&P 500 เป็นตัวชี้วัดภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้อย่างแม่นยำที่สุด
- กระจกสะท้อนเศรษฐกิจ : S&P 500 ถูกมองเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกมายาวนานกว่า 60 ปี โดยปกติแล้ว หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโต ดัชนีก็จะปรับตัวสูงขึ้น
ลงทุนใน S&P 500 แล้วขาดทุนได้ไหม
แม้ว่า S&P 500 จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลังในระยะยาวอยู่ที่ราว 10-11% ต่อปี แต่การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงและความผันผวนที่คุณต้องทำความเข้าใจ
- ความผันผวนของตลาดหุ้น : S&P 500 เคยปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงมากกว่า 20% ในช่วงวิกฤติใหญ่ เช่น วิกฤติซับไพรม์ปี 2008 หรือช่วงโควิด-19 ปี 2020 แต่ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ดัชนีมักฟื้นตัวกลับมาและทำจุดสูงสุดใหม่ได้เสมอ
- ความเสี่ยงค่าเงิน : สำหรับนักลงทุนไทย การลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านกองทุนต่างประเทศ อาจทำให้ผลตอบแทนเมื่อแปลงกลับเป็นเงินบาทลดลงได้ หากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
วิธีลดความเสี่ยง
ควรใช้กลยุทธ์การลงทุนระยะยาวแบบ DCA (ทยอยซื้อรายเดือน) และพิจารณาเลือกกองทุนที่มีนโยบาย “ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedged Class)” เพื่อลดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
ตัวเลขที่น่าสนใจ
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ได้ให้ผลตอบแทนรวมเฉลี่ยที่สูงถึงประมาณ 11.7% ต่อปี ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า หากลงทุน 100,000 บาทตั้งแต่ต้น จะสามารถเติบโตเป็นกว่า 302,000 บาทได้เลยทีเดียว
ซื้อ S&P 500 ได้ที่ไหน
เมื่อเข้าใจภาพรวมของดัชนีและความเสี่ยงแล้ว คำถามต่อไปคือ แล้วจะสามารถเข้าถึงการลงทุนในดัชนีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกนี้ได้ที่ไหน ซึ่งถึงแม้อยู่ในประเทศไทย ก็มีหลายช่องทางที่เปิดโอกาสให้คุณลงทุนใน S&P 500 ได้อย่างสะดวก ดังนี้
- กองทุนรวมในไทย : เลือกกองทุนที่อ้างอิง S&P 500 โดยตรง เช่น SCB S&P500, KKP US500, หรือ ASP-S&P500-A
- แอปลงทุนออนไลน์ : แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Dime, InnovestX, K PLUS เปิดโอกาสให้ลงทุนในกองทุนต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
- ซื้อ ETF โดยตรง (ผ่านบัญชีต่างประเทศ) : สามารถซื้อ Exchange Traded Funds (ETFs) ที่อ้างอิง S&P 500 ได้โดยตรง เช่น SPDR S&P 500 (SPY) หรือ iShares Core S&P 500 (IVV)

แล้วทำไม S&P 500 ถึงเป็นดัชนีที่คนทั่วโลกนิยม?
การลงทุนใน S&P 500 ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากนักลงทุนทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงิน กองทุนบำนาญ หรือนักลงทุนรายย่อย เพราะดัชนีนี้ได้รับการยอมรับในฐานะ “แกนกลาง” ของพอร์ตลงทุนระดับโลก ด้วยเหตุผลที่ว่า
- ครอบคลุมตลาดใหญ่ : ดัชนีนี้ครอบคลุมกว่า 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำให้การลงทุนใน S&P 500 เปรียบเสมือนการถือหุ้นบริษัทชั้นนำระดับโลกไว้ในพอร์ตเดียว นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักลงทุนจึงถือว่าเป็นการลงทุนที่ใกล้เคียงกับการ “ซื้อตลาดสหรัฐฯ ทั้งตลาด”
- กระจายความเสี่ยงทันที : ช่วยให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องคัดเลือกหุ้นรายตัว โดยอัตโนมัติ ทำให้ความเสี่ยงจากการที่หุ้นตัวใดตัวหนึ่งล้มเหลวมีผลกระทบต่อพอร์ตโดยรวมน้อยมาก
- เติบโตตามนวัตกรรม : มีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและเศรษฐกิจโลกอยู่ภายในดัชนีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งมีน้ำหนักสูง ทำให้ดัชนีเติบโตไปพร้อมกับกระแสหลักของโลกยุคใหม่
- ผลตอบแทนในระยะยาวสูงและสม่ำเสมอ : ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ดัชนีได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่สูงได้อย่างต่อเนื่อง หากถือครองในระยะเวลา 10 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่งคั่ง
S&P 500 อีกหนึ่งช่องทางสู่การลงทุนระดับโลก
การลงทุนใน S&P 500 คือการ “ซื้อตลาดทั้งตลาด” ของอเมริกาในพอร์ตเดียว เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนระยะยาวโดยไม่จำเป็นต้องเฝ้าติดตามตลาดตลอดเวลา ซึ่งดัชนีนี้ทำหน้าที่เป็นเสมือนแกนหลักที่ทรงพลังและน่าเชื่อถือให้แก่พอร์ตของคุณ เพราะคุณกำลังลงทุนในบริษัทยักษ์ใหญ่ 500 แห่งของโลกที่เติบโตไปพร้อมกับนวัตกรรมและเศรษฐกิจโลก เพียงแค่เริ่มต้นอย่างมีกลยุทธ์ เลือกช่องทางการลงทุนที่เหมาะสม ทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่อง คุณก็สามารถใช้ S&P 500 เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งได้แล้ว
*คอนเทนต์นี้เป็นเพียงการให้ความรู้ ไม่ใช่การชี้ชวนลงทุน (Financial Advisor)
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
ขอบคุณข้อมูลจาก : SET Invest Now, Finnomena, ธนาคารไทยพาณิชย์, moneybuffalo