Home / บทความทั้งหมด / เปิดวิธีคิดการ ซื้อประกันแบบคนรวย ที่คุณเองก็เริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้

เปิดวิธีคิดการ ซื้อประกันแบบคนรวย ที่คุณเองก็เริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้

ซื้อประกันแบบคนรวย

เมื่อพูดถึง “ประกัน” หลายคนก็มองว่าเป็นเรื่องการจ่ายเบี้ยประกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงพื้นฐาน เช่น ค่ารักษาพยาบาล การชดเชยรายได้ หรือการเงินในอนาคต แต่สำหรับคนรวยที่ซื้อประกัน อาจมองในมุมที่เพิ่มขึ้นไปกว่านั้น เพราะนอกจากจะซื้อเพื่อการชดเชยค่าใช้จ่าย ยังเป็นเครื่องมือในการ “ปกป้องทรัพย์สินทั้งหมดที่สร้างมาไม่ให้ถูกทำลายจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด” โดยบทความนี้จะชวนไปดูวิธีคิดเกี่ยวกับ การซื้อประกันแบบคนรวย ว่าเขาคิดกันยังไง ซึ่งคุณเองก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ ในระดับเบี้ยประกันที่เราสามารถจ่ายไหว เพื่อให้ความมั่งคั่งของเราเติบโตได้อย่างมั่นคงในทุกสถานการณ์

คนรวยซื้อประกันยังไง

คิดเรื่อง ซื้อประกันแบบคนรวย จากการชดเชยสู่การปกป้องทรัพย์สิน

คนรวยไม่ได้มองประกันในฐานะ “ค่าใช้จ่าย” แต่เป็น “กลไกปกป้องทรัพย์สิน” เพราะแทนที่จะโฟกัสที่เงินเบี้ยประกัน พวกเขาโฟกัสที่ผลกระทบทางการเงินหากเกิดวิกฤต เช่น ค่ารักษาที่สูงจนต้องขายทรัพย์สิน หรือธุรกิจที่ต้องหยุดชะงักจนเสียรายได้ก้อนใหญ่ ดังนั้น การจ่ายเบี้ยประกันจึงเป็นต้นทุนเล็กที่แลกกับการรักษาเงินก้อนหลักให้ปลอดภัย และนี่คือเหตุผลที่คนรวยมักถือประกันหลายฉบับ เพื่อกระจายความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้ทรัพย์สินที่สร้างมาทั้งชีวิตต้องสูญเสียไปเพียงเพราะเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้

ยิ่งมีทรัพย์สินมาก ผลกระทบจากความเสี่ยงยิ่งรุนแรง

ความเสี่ยงสำหรับคนรวยไม่ใช่แค่เสียเงิน แต่ยังรวมถึงปัญหาทางกฎหมายที่อาจนำไปสู่การฟ้องร้องได้ด้วยเมื่อเกิดอุบัติเหตุใหญ่ ปัญหาคดีความ หรือปัญหาสุขภาพรุนแรง ผลที่ตามมาคือการต้องสูญเสียเงินก้อนใหญ่ในระดับที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการหามาใหม่ การทำประกันอย่างรอบคอบจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการปิดช่องว่างความเสี่ยงเหล่านี้ เพื่อไม่ให้ต้องนำเงินลงทุนหลักออกมาใช้แก้ปัญหาฉุกเฉิน

 ใช้ประกันเพื่อคงความมั่งคั่ง เพราะคือการลงทุนในอนาคตที่มั่นคง

จุดประสงค์หลักของการทำประกันคือการ ใช้ประกันสร้างความมั่งคั่งแบบเชิงป้องกัน นั่นคือการรักษาเงินทุนหลักให้ยังคงสภาพ และมีโอกาสเติบโตต่อไปได้ในอนาคต หากเกิดวิกฤตอะไรขึ้นก็ตาม ประกันจะทำหน้าที่จ่ายเงินชดเชยเพื่อให้ทรัพย์สินอื่นๆ ไม่ต้องถูกกระทบ ทำให้การใช้ประกันเป็นเครื่องมือการเงิน นั้นหมายถึงการลงทุนในความแน่นอน ซึ่งทำให้การเงินของคุณเดินหน้าต่อไปได้

ซื้อประกันตามคนรวย

วิธีคิด ซื้อประแบบคนรวย ด้วย 4 กลยุทธ์ที่คุณก็นำไปปรับใช้ได้

การทำความเข้าใจกลยุทธ์ วิธีคิดเรื่องประกันแบบคนรวย ไม่ได้หมายถึงการซื้อตามจำนวน แต่คือการนำหลักการใช้ประกันเป็นเครื่องมือการเงิน มาจัดลำดับความสำคัญของความคุ้มครองที่จำเป็นที่สุด โดยคำนึงถึงงบประมาณเบี้ยประกันที่สามารถจ่ายไหว

ใช้เงินก้อนเล็กที่จ่ายไหว เพื่อปกป้องเงินก้อนใหญ่ทั้งหมด

หลักการทางเงินง่าย ๆ คือการป้องกันเงินลงทุนไม่ให้ถูกรบกวน ซึ่งการจ่ายเบี้ยประกัน (เงินจำนวนไม่มากต่อปี) คือการป้องกันไม่ให้เงินออมหรือเงินลงทุนหลักของเราต้องถูกดึงออกมาใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อเกิดเรื่องประกันจะจ่ายแทน ทำให้เงินก้อนหลักยังคงเติบโตต่อไปได้ นี่จึงหมายถึงการจัดสรรเงินค่าเบี้ยอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้เงินที่คุณเก็บมาไม่หายไปกับเรื่องที่ไม่คาดคิด

ประกันเพื่อส่งต่อทรัพย์สิน ให้ถึงมือคนที่รักอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม

ประกันชีวิตทำหน้าที่เป็น “เงินสดที่พร้อมใช้” ที่สามารถโอนเงินให้ผู้รับผลประโยชน์ได้ทันที ตามที่เราได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ นี่เป็นหนึ่งในหัวใจของประกันเพื่อส่งต่อมรดกที่ช่วยลดขั้นตอนการรอแบ่งทรัพย์สินที่ใช้เวลานานและซับซ้อน ทำให้ครอบครัวได้รับเงินเพื่อใช้จ่ายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อทรัพย์สินหลักเป็นบ้าน ที่ดิน หรือธุรกิจที่ยากต่อการแบ่งแยก

คุ้มครองธุรกิจ ไม่ให้ต้องปิดตัวลงตามผู้ก่อตั้ง

สำหรับผู้ประกอบการ การทำประกันผู้บริหารสำคัญ (Key Person Insurance) ถือเป็นวิธีป้องกันไม่ให้ธุรกิจต้องล้มตาม เพราะหากผู้บริหารหลักไม่อยู่ หรือป่วยหนักจนทำงานไม่ได้ ประกันเองจะช่วยเสริมสภาพคล่องฉุกเฉิน เช่น มีเงินสำหรับชำระหนี้ มีเงินจ้างทีมงานใหม่ หรือมีเงินให้ครอบครัวได้ตั้งตัวโดยไม่ต้องขายกิจการทิ้ง

ใช้ประกันร่วมกับแผนภาษี เพื่อรักษามูลค่าเงินอย่างถูกกฎหมาย

ประกันชีวิตถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพส่วนหนึ่งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ (ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร) นอกจากนี้ การวางแผนส่งต่อทรัพย์สินผ่านประกันยังช่วยให้เราสามารถจัดการเรื่องภาษีมรดกได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ซื้อประกันแบบคนรวย อะไรดี

5 วิธีประยุกต์ใช้แนวคิด ซื้อประกันแบบคนรวย ที่ทำได้ตามกำลังทรัพย์

หลักการสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณมีเงินเท่าไหร่ แต่คือการนำวิธีคิดเรื่องประกันแบบคนรวย มาใช้เพื่อปกป้องเงินที่คุณหามาอย่างชาญฉลาด นี่คือ 5 วิธีที่คุณสามารถเริ่มทำได้ แต่เน้นย้ำว่าต้องคำนึงถึงงบประมาณของตนเองเป็นหลักด้วย 

จัดลำดับความสำคัญโดยป้องกันความเสี่ยงระดับใหญ่ก่อนเสมอ

เริ่มที่ประกันชีวิตและประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานที่ให้ความคุ้มครองสูงก่อน  เพราะความเสี่ยงที่ทำลายชีวิต เช่น การป่วยหนักจนต้องใช้เงินหลักแสนหรือล้าน คือความเสี่ยงเดียวที่สามารถเปลี่ยนสถานะทางการเงินทั้งหมดของคุณได้ ดังนั้น การปิดความเสี่ยงนี้ก่อน จึงเป็นการใช้เบี้ยประกันที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด คำแนะนำเพิ่มเติมคือให้เน้นไปที่ความคุ้มครองแบบชั่วระยะเวลา (Term Life) หากต้องการวงเงินสูงในเบี้ยประกันที่ต่ำ เพื่อปกป้องภาระหนี้สินในช่วงที่คุณกำลังสร้างตัว

รักษาไว้ในช่วงที่คุ้มค่า อย่าตัดประกันเมื่อสุขภาพดี

ไม่ควรยกเลิกกรมธรรม์เพียงเพราะ “ยังไม่เคยเคลม” หรือ “ยังสุขภาพดีอยู่” เพราะช่วงที่มีสุขภาพดี คือช่วงที่ “ใบรับรองสุขภาพ” มีมูลค่าสูงสุด และบริษัทประกันจะคิดเบี้ยประกันในอัตราที่ดีที่สุด ดังนั้น การรักษาความคุ้มครองไว้ในขณะนี้จึงเป็นการลงทุนในความแน่นอนที่คุ้มค่าที่สุดในระยะยาว ก่อนที่อายุหรือปัญหาสุขภาพจะทำให้เบี้ยประกันสูงขึ้นจนไม่สามารถทำได้อีกต่อไป

ทบทวนความคุ้มครอง เพื่อปรับแผนให้โตตามภาระที่เพิ่มขึ้น

ควรตรวจสอบกรมธรรม์อย่างน้อยปีละครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เช่น การแต่งงาน การมีลูก การซื้อบ้าน หรือการมีหนี้สินใหม่ หากมีภาระเพิ่มขึ้นก็ควรเพิ่มวงเงินความคุ้มครองเท่าที่คุณสามารถจ่ายไหว ด้วยเหตุผลคือคุณต้องมั่นใจว่า หากคุณไม่อยู่ ภาระหนี้สินเหล่านั้นจะไม่ตกไปเป็นของครอบครัว ความคุ้มครองจึงควรเท่ากับหรือมากกว่ามูลค่าหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบนั่นเอง

เลือกคุณภาพเหนือราคา เน้นปกป้องเงินเก็บได้ดีที่สุด

แทนที่จะเลือกแผนประกันที่ถูกที่สุด ควรเปลี่ยนคำถามเป็น “แผนไหนที่ปกป้องเงินเก็บของเราได้ดีที่สุดภายใต้งบประมาณที่ตั้งไว้?” การตัดสินใจควรอยู่บนพื้นฐานของวงเงินความคุ้มครองเมื่อเกิดวิกฤต ไม่ใช่ราคาเบี้ยประกันต่อเดือนที่ต่ำที่สุด เพราะเป้าหมายของคุณคือการรักษาเงินเก็บทั้งก้อนไว้ให้ได้

จัดสรรงบประมาณ เช่น ซื้อตามกำลัง ไม่สร้างภาระให้ตัวเอง

คุณต้องกำหนดงบประมาณเบี้ยประกันต่อปีที่ไม่กระทบต่อสภาพคล่องในชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน (ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรเกิน 10-15% ของรายได้ต่อปี) เพราะการซื้อประกันที่มากเกินไปจนทำให้ชีวิตปัจจุบันลำบากถือเป็นการบริหารความเสี่ยงที่ผิดพลาด การซื้อตามกำลังที่ไหว คือการใช้หลักการของคนรวยอย่างแท้จริง เพราะหมายถึงการวางแผนการเงินด้วยความรับผิดชอบและยั่งยืน

ซื้อประกันมรดก

อยากเริ่มปกป้องทรัพย์สินแบบแนวคิดการ ซื้อประกันของคนรวย เลือกประกันที่ตอบโจทย์ความมั่นคงอะไรดี?

เมื่อคุณเข้าใจหลักการแล้วว่า ประกันไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่าย แต่คือเครื่องมือรักษามูลค่าทรัพย์สิน ถึงเวลาที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลยุทธ์การปกป้องเงินก้อนหลักได้อย่างแท้จริง การเริ่มต้นด้วยกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองสูงในเบี้ยประกันที่สมเหตุสมผล จึงเป็นก้าวแรกที่ชาญฉลาดที่สุด

ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Life) ปกป้องหนี้และรายได้ครอบครัว

กรมธรรม์ประเภทนี้ให้วงเงินความคุ้มครองสูงที่สุดเมื่อเทียบกับเบี้ยที่จ่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ปิดความเสี่ยงหนี้สิน และทดแทนรายได้ให้กับครอบครัวในช่วงที่กำลังสร้างตัว เช่น

  • ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ระยะสั้น Easy E-Save 10/5 FWD : ออมเงินอย่างมีเป้าหมายด้วยประกันสะสมทรัพย์ จ่ายเบี้ยฯเพียง 5 ปี รับผลตอบแทนแน่นอน เบี้ยประกันชีวิตสะสมทรัพย์สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สูงสุด 100,000 บาท ตามที่กฎหมายกำหนด
  • ประกันชีวิต อยุธยาเฉพาะกาล 10/10 : แบบประกันเพื่อความคุ้มครองชีวิตที่เบี้ยไม่แพง และได้รับความคุ้มครองสูง ทำไว้เพื่อคนข้างหลังกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเน้นความคุ้มครองชีวิต เพราะจ่ายเบี้ยหลักพัน ได้รับความคุ้มครองหลักล้าน

 ประกันโรคร้ายแรง (Critical Illness): รักษาเงินออมไม่ให้ถูกทำลาย 

เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการป้องกันไม่ให้ค่ารักษาพยาบาลจำนวนมากมาแตะต้องเงินเก็บหรือเงินลงทุนของคุณ เมื่อวินิจฉัยพบโรคที่กำหนด จะมีการจ่ายเงินก้อนทันทีเพื่อใช้จ่ายในการรักษาและการฟื้นฟู

  • ไทยประกันชีวิต โรคร้ายได้เงินชัวร์ : ประกันโรคร้ายแรง คุ้มครอง 10 โรค หากตรวจพบรับเงินสูงสุด 1 ล้านบาท เบี้ยประกันไม่เสียเปล่า และค่าเบี้ยประกันไม่สูญเปล่า หากอยู่ครบกำหนดสัญญารับเงินคืนสูงสุด 1,000,000 บาท
  • PRUCritical Care : คุ้มครอง 4 โรคร้ายแรงสำคัญ หัวใจวายเฉียบพลัน, หลอดเลือดสมองแตก หรืออุดตัน, ไตวายเรื้อรัง และภาวะโคม่า เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรงก็รับความคุ้มครองแบบเงินก้อน และไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพียงตอบคำถามง่ายๆ ไม่กี่ข้อ

แนวคิดซื้อประกันแบบคนรวย ไม่ได้อยู่กับเงิน แต่ขึ้นอยู่กับวิธีคิด

สุดท้ายแล้ว แนวคิดซื้อประกันแบบคนรวย ไม่ได้หมายถึงการซื้อหลายกรมธรรม์ หรือซื้อแผนราคาแพง แต่คือการใช้ประกันเป็น “เครื่องมือรักษาทรัพย์สินและป้องกันความเสี่ยงใหญ่” เพื่อให้เงินที่เราสร้างมาหลายปีไม่หายไปเพียงเพราะเหตุการณ์ครั้งเดียว ทุกคนเริ่มต้นได้จากการเลือกความคุ้มครองที่จำเป็นที่สุด และอยู่ในงบประมาณที่จ่ายไหว เพราะการปกป้องสิ่งที่มีอยู่ในวันนี้ คือรากฐานของความมั่นคงในอนาคตเสมอ

Droplead New

Let us know who you are