เคยรู้สึกไหมว่าตื่นเช้ามาแต่ละวันก็เหมือนเดิม คือตื่น ทำงาน กลับบ้าน กินข้าว ดูซีรีส์ แล้วเข้านอน วนซ้ำไปเรื่อยๆ จนบางครั้งเผลอถามตัวเองว่า “ชีวิตเราทำไปเพื่ออะไร?” ถ้าคุณกำลังเผชิญกับความรู้สึกว่างเปล่า เฉยชา ไม่สุขไม่ทุกข์ นี่อาจไม่ใช่แค่ความเหนื่อยชั่วครั้งคราว แต่อาจเป็นสัญญาณของ ภาวะสิ้นยินดี หรือที่หลายคนเรียกว่า Dead Inside ซึ่งเป็นภาวะไม่อยากทำอะไรเลย และอันตรายกว่าที่คิด เพราะอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโรคซึมเศร้าได้ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับภาวะสิ้นยินดีคืออะไรรวมถึงวิธีที่จะช่วยให้คุณกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยการสร้างเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน
ภาวะสิ้นยินดี (Anhedonia) คืออะไร?
ภาวะสิ้นยินดี คือภาวะที่จิตใจ “ตายด้าน” ไม่สามารถรับรู้ความสุขหรือความทุกข์ได้เหมือนเดิม จากที่เคยดีใจเล็ก ๆ กับการได้ดื่มกาแฟแก้วโปรด หรือการออกไปเดินเล่น กลับกลายเป็นเฉยชาไม่รู้สึกอะไรเลย คนที่เผชิญภาวะนี้มักบอกว่าเหมือน “โรคไร้ความรู้สึก” ทุกอย่างเป็นเพียงกิจวัตรที่ต้องทำ ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำ ภาวะนี้ต่างจากการพักผ่อนหรือการใช้ชีวิตแบบปล่อยวาง เพราะความเฉยชาเกิดขึ้นพร้อมความรู้สึกว่างเปล่า ไม่อยากทำอะไรเลย และไม่สามารถหาความหมายจากชีวิตประจำวันได้
สัญญาณเตือน Dead Inside : คุณกำลังสิ้นยินดีอยู่หรือเปล่า?
ชีวิตที่ขาดสีสันจนคุณเริ่มตั้งคำถามถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่ อาจเป็นสัญญาณเตือนให้คุณหันกลับมาสำรวจจิตใจตัวเอง หากคุณเริ่มรู้สึกว่าไม่สามารถสัมผัสความสุขหรือความตื่นเต้นได้เหมือนเคย อาจถึงเวลาที่ต้องใส่ใจกับอาการของภาวะสิ้นยินดีที่แสดงออกมา
- ไร้จุดหมายในชีวิต : การทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ เพราะคุณไม่รู้ว่ากำลังทำสิ่งเหล่านั้นไปเพื่ออะไร ทำไปทำไม หรือทำไปเพื่ออะไร
- ชีวิตวนลูปเดิมๆ : คุณรู้สึกเบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ที่ไม่มีความท้าทายหรือสิ่งใหม่
- หมดความตื่นเต้น : สิ่งที่เคยทำให้คุณมีความสุขกลับไม่สามารถจุดประกายความรู้สึกดีได้แล้ว
- ถอยห่างจากสังคม : คุณเริ่มแยกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว ไม่อยากพบเจอผู้คนหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
- รู้สึกว่างเปล่าในใจ : แม้ชีวิตภายนอกจะดูปกติ แต่ข้างในกลับรู้สึกเหมือนมีช่องว่างขนาดใหญ่ที่ไม่มีอะไรเติมเต็มได้เลย
ภาวะสิ้นยินดีต่างจาก Burnout และโรคซึมเศร้าอย่างไร?
แม้จะมีอาการคล้ายคลึงกัน แต่ ภาวะสิ้นยินดี ก็มีจุดที่แตกต่างจากภาวะอื่นๆ :
- Burnout : เป็นความเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจที่มักเกิดจากความเครียดในการทำงาน ซึ่งเมื่อได้พักผ่อนอย่างเพียงพอก็จะสามารถกลับมาดีขึ้นได้
- ภาวะสิ้นยินดี : ไม่ใช่แค่ความเหนื่อย แต่เป็นการ “ไม่รู้สึกอะไรเลย” ทั้งความสุขและความทุกข์
- โรคซึมเศร้า : หากปล่อยภาวะสิ้นยินดี ไว้โดยไม่ได้รับการดูแล อาจพัฒนาไปสู่ภาวะซึมเศร้าที่รุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
4 วิธีเยียวยาหัวใจจากภาวะสิ้นยินดีด้วยเป้าหมายใหม่ที่ชัดเจน
ถ้าความรู้สึก Dead Inside ที่เหมือนชีวิตไร้จุดหมายและรู้สึกเฉยๆ กับทุกอย่าง อาจทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่มีแรงขับเคลื่อนแต่ข่าวดีคือภาวะนี้สามารถเยียวยาได้ เพราะการเติมไฟในชีวิตไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องใช้ปาฏิหาริย์ แต่เป็นการลงมือทำทีละเล็กทีละน้อย ดังนั้น การสร้างเป้าหมายที่ชัดเจนถือเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่จะช่วยให้คุณกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ลองทำตาม 4 วิธีนี้ แล้วคุณจะพบว่าชีวิตยังมีเรื่องให้ตื่นเต้นอีกมากมาย
ดูแลสุขภาพกายและใจ
การดูแลสุขภาพร่างกายเป็นรากฐานสำคัญของการเยียวยาจิตใจ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขอย่าง “โดพามีน” และ “เซโรโทนิน” ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีพลังมากขึ้น ดังนั้น การพักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพราะร่างกายที่แข็งแรงจะช่วยให้จิตใจของคุณแข็งแรงตามไปด้วย
ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ
การก้าวออกจาก Comfort Zone จะช่วยเปิดโลกใบใหม่ให้กับคุณ ลองหาโอกาสเดินทางไปในสถานที่ที่ไม่เคยไป หรือหาคอร์สเรียนทักษะใหม่ๆ ที่คุณสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนทำอาหาร เรียนดนตรี หรือแม้แต่การปลูกต้นไม้ กิจกรรมใหม่ๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ และอาจจุดประกายแพชชั่นที่คุณเคยคิดว่าหายไปแล้วให้กลับมาอีกครั้ง
หาแรงบันดาลใจและตั้งเป้าหมายใหม่
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูจิตใจคือการมีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต ลองตั้ง “เป้าหมายทางการเงิน” ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จับต้องได้และเป็นแรงผลักดันชั้นดี เช่น
- เป้าหมายการเงินระยะสั้น : ตั้งใจเก็บเงินเพื่อซื้อสิ่งที่อยากได้เล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำให้คุณมีความสุขในแต่ละวัน เช่น อุปกรณ์สำหรับงานอดิเรกใหม่ๆ หรือตั๋วคอนเสิร์ตที่รอคอย
- เป้าหมายการเงินระยะกลาง : เริ่มวางแผนเก็บเงินสำหรับสิ่งที่ใหญ่ขึ้น เช่น เงินดาวน์รถยนต์ เงินลงทุนเพื่อเปิดธุรกิจเล็กๆ หรือเงินสำหรับเรียนต่อในสิ่งที่ใฝ่ฝัน
- เป้าหมายการเงินระยะยาว : วางแผนเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงในอนาคต เช่น การวางแผนเกษียณอายุ หรือการสร้างอิสรภาพทางการเงิน
เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะรู้สึกว่าทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมามีเหตุผล มีสิ่งที่ต้องทำ และมีปลายทางที่รออยู่
พูดคุยและขอคำปรึกษา
การเก็บความรู้สึกไว้คนเดียวอาจทำให้อาการแย่ลงได้ หากรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหว ควรหาโอกาสพูดคุยกับคนใกล้ชิดที่คุณไว้ใจ หรือถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพราะการได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณสามารถก้าวข้ามภาวะสิ้นยินดีนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
ภาวะสิ้นยินดีแก้ได้ด้วยการหาความหมายใหม่
จะเห็นได้ว่าภาวะสิ้นยินดีไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะคือสัญญาณเตือนของใจที่อ่อนล้า แต่ข่าวดีคือคุณเองก็สามารถก้าวข้ามมันได้ เริ่มจากการดูแลร่างกาย เปิดรับสิ่งใหม่ๆ และที่สำคัญคือการมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน โดยเฉพาะเป้าหมายทางการเงินที่จะเป็นเชื้อไฟในการใช้ชีวิต
ขอบคุณข้อมูลจาก : bedee, mgronline, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, pobpad, medparkhospital, mentalwellclinic, /bangkokmentalhealthhospital